เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์เป็นหนึ่งในกิจกรรมชีวิตคู่ที่ช่วยให้คู่รักรักกันยืนยาว รวมไปถึงส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายหลายด้าน ทว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง นอกจากการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ก็ควรมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถี่จนเกินไปด้วย เพราะข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยก็มีเช่นกัน และเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคฮิสทีเรียได้ ซึ่งเป็นอาการเสพติดเซ็กซ์จนเกิดผลเสียต่อการทำกิจวัตรประจำวัน และการเข้าสังคมนั่นเอง
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่แน่ใจว่าตนเองเข้าข่ายเสพติดเซ็กซ์หรือไม่? สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ Trin Wellness Clinic รวบรวมมาฝากกันได้ที่นี่เลย
การมีเพศสัมพันธ์ดีอย่างไร
ก่อนที่จะไปทราบข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยนั้น ทุกคนควรรู้ก่อนว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ยกตัวอย่าง 6 ข้อต่อไปนี้
1. การมีเพศสัมพันธ์ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะในช่วงที่ร่วมรักกันจนถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมา กระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ เกิดการตื่นตัว และทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
2. ช่วยให้นอนหลับสนิท หลับลึกตลอดคืน อีกทั้งยังทำให้ร่างกายและสมองปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากช่วงที่ร่างกายถึงจุดสุดยอด จะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ทำให้ลืมความทุกข์ที่ประสบในแต่ละวัน และช่วยให้ร่างกายได้รับการผ่อนคลายอย่างเต็มที่
3. กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความต้องการทางเพศ ต้องอธิบายก่อนว่าข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยมีก็จริง แต่ถ้าร่างกายไม่มีความต้องการทางเพศเลย มีปัญหาทางระบบสืบพันธ์ุหรือนกเขาไม่ขัน ก็ถือเป็นอาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์ เพราะการมีอารมณ์ทางเพศ คือ เรื่องธรรมชาติของมนุษย์
4. ช่วยให้ผู้หญิงสามารถควบคุมปัสสาวะได้ดี เนื่องจากในช่วงที่ร่างกายถึงจุดสุดยอด กล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณอุ้งเชิงกรานซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกล้ามเนื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะ จะมีการบีบรัดตัวเปรียบเหมือนการบริหารกล้ามเนื้อในตำแหน่งนั้น ๆ ทำให้ผู้หญิงสามารถควบคุมการปัสสาวะได้ดีขึ้น ยิ่งใครที่มีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่ได้ การมีเพศสัมพันธ์ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการนี้ค่อย ๆ ทุเลาลงได้
5. ลดโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ ร่างกายจะถูกกระตุ้นให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดี มีการสูบฉีดเลือดตลอดเวลา จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และยังช่วยทุเลาอาการเจ็บปวดตามร่างกายได้อีกด้วย เพราะระหว่างที่มีเซ็กซ์ ร่างกายจะมีการหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมา ซึ่งสารนี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีมาก ๆ
6. ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย เพราะการมีเพศสัมพันธ์ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเพศชาย เช่น เทสโทสเตอโรน ซึ่งอาจช่วยปกป้องต่อมลูกหมากจากมะเร็งได้
ข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อย
สำหรับข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยนั้น ถือเป็นสิ่งที่คู่รักทุกคู่ควรระวัง เพราะนอกจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอวัยวะเพศแล้ว ยังมีโทษอื่น ๆ อีก ดังนี้
1. ผู้ชายมีโอกาสเจ็บอวัยวะเพศรุนแรงในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ได้ เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งหรือมีเพศสัมพันธ์ระยะเวลานาน อวัยวะเพศจะมีการเสียดสีตลอดเวลา ส่งผลให้อวัยวะเพศเจ็บปวดหรืออักเสบได้นั่นเอง
2. ผู้หญิงก็มีโอกาสเจ็บที่อวัยวะเพศ หลังมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน เป็นข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยที่ผู้หญิงทุกคนควรระวัง เนื่องจากช่วงที่มีเพศสัมพันธ์อวัยวะเพศชาย จะเสียดสีกับผนังช่องคลอด ทำให้มีอาการอักเสบรุนแรง หรือในบางรายอาจมีเลือดออกในช่องคลอดได้
3. ร่างกายขาดน้ำเฉียบพลัน เนื่องจากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ร่างกายจะใช้พลังงานมาก เปรียบเสมือนการออกกำลังกาย หากมีเซ็กซ์บ่อยครั้งก็เหมือนการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และเสี่ยงต่อการช็อกได้เช่นกัน
4. มีอาการปวดหลังส่วนล่าง เป็นข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยที่หลายคนมองข้าม คิดว่าการปวดหลัง เกิดจากการนั่งทำงานนาน ๆ เพียงอย่างเดียว ทว่าในความเป็นจริง การมีเซ็กซ์บ่อย ก็ทำให้มีอาการปวดหลังส่วนล่างได้นั่นเอง
5. อวัยวะเพศเกิดรอยช้ำหรือบาดเจ็บหนัก ยิ่งในเพศชายที่อวัยวะเพศมีเส้นประสาทจำนวนมาก เมื่อถูกเสียดสีบ่อย ๆ ก็อาจทำให้เส้นประสาทบาดเจ็บ หรือเส้นเอ็นฉีกขาดได้เช่นกัน
6. ร่างกายเหนื่อยและอ่อนล้าเกินไป เป็นข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยที่น่ากังวล หากเป็นคู่รักที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพตนเองเป็นประจำ และไม่ควรมีเซ็กซ์บ่อยเกินไป
มีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหนถึงนับว่า “มากไป”
จากที่กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อย หลายคนก็อาจตั้งคำถามในใจว่า การมีเพศสัมพันธ์กี่ครั้งต่อปีถึงจะเรียกว่าบ่อยจนเกินไป ซึ่งในทางการแพทย์ได้วิจัยเอาไว้ว่า
- ผู้ที่มีอายุในช่วง 18-29 ปี ควรมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 112 ครั้งต่อปี
- ผู้ที่มีอายุ 30-39 ปี ควรมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 86 ครั้งต่อปี และในแต่ละสัปดาห์ ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1-2 ครั้งเท่านั้น
หากมีเพศสัมพันธ์ตามอัตราข้างต้น จะถือว่ามีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อยนั่นเอง แต่หากพบว่าในการมีเพศสัมพันธ์แต่ละครั้ง มีอาการหลั่งเร็วเกินไป อาการดังกล่าวก็จะถือเป็นหนึ่งในอาการผิดปกติของการมีเพศสัมพันธ์ที่ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการรักษาด้วยนั่นเอง
สรุปเกี่ยวกับข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์
ข้อเสียของการมีเพศสัมพันธ์บ่อย อาจทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีสทีเรียได้อีกด้วย ดังนั้นทุกคนควรรู้จักการควบคุมตนเอง ให้มีเพศสัมพันธ์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ถึงจุดสุดยอดเร็วเกินไป และป้องกันตนเองทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงจะมีเซ็กซ์ในแบบที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้มากที่สุดนั่นเอง